WFH อย่างไรให้ประหยัดค่าไฟฟ้าได้มากที่สุด

ถึงแม้การทำงานที่บ้าน (Work From Home) จะมีประโยชน์หลายอย่าง ทั้งช่วยเพิ่มเวลาให้กับชีวิต ช่วยลดปัญหารถติด และช่วยบรรเทาความเสี่ยงโควิด 19 แต่ก็แอบมีจุดด้อยอยู่บ้างเล็กน้อยเหมือนกัน ซึ่งนั่นก็คือการใช้ไฟฟ้าในบ้านที่เพิ่มมากขึ้น จนทำให้ค่าไฟสูงปรี๊ดตามขึ้นมาด้วยนั่นเอง แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะวันนี้เราได้รวบรวมวิธีประหยัดไฟในบ้านในช่วงทำงานที่บ้านมาฝาก


เปิดหน้าต่างรับลมและแสงธรรมชาติ

การทำงานอยู่ที่บ้านเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญก็คือ เรื่องของแสงสว่างต้องเพียงพอ แต่จะให้เปิดไฟตลอดเวลาก็คงเปลืองไฟแย่ วิธีแรกที่ “การไฟฟ้า” แนะนำก็คือให้คุณเปิดม่านและเปิดหน้าต่างให้แสงสว่างและลมธรรมชาติผ่านเข้ามาในบ้าน ซึ่งถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการประหยัดพลังงานในช่วงที่มี การ Work from home ที่สำคัญการเปิดให้อากาศถ่ายเทยังจะช่วยลดความเสี่ยงของ COVID-19 ได้อีกด้วย

ไม่เสียบปลั๊กทิ้งไว้ ปิดอุปกรณ์ไร้สายหากไม่ได้ใช้งาน

ถึงแม้จะไม่ได้เชื่อมต่อหรือใช้งานอุปกรณ์แก็ดเจ็ต อุปกรณ์ไร้สาย รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ แล้ว แต่ถ้าหากยังคงเสียบปลั๊กไว้ เครื่องก็จะมีการทำงานและมีกระแสไฟฟ้าไหลเวียนอยู่ ฉะนั้นถ้าหากใครอยากประหยัดพลังงานและลดการใช้ไฟฟ้าละก็ ต้องปิดเครื่องและถอดปลั๊กหลังจากเลิกใช้งานทุกครั้งในทันที

ตั้ง Sleep Mod ในแล็ปท็อปเสมอ

การ Work from home คนส่วนใหญ่นิยมใช้แล็ปท็อป ซึ่งการทำงานบนแล็ปท็อปก็กินไฟพอสมควร แต่มีวิธีช่วยประหยัดไฟคือ ให้ตั้ง Sleep Mode เอาไว้เสมอ เมื่อไม่ได้ใช้หน้าจอก็จะปิดอัตโนมัติ อีกทั้งควรปรับแสงจอไม่สว่างเกินไป ก็ช่วยประหยัดไฟได้

กำหนดเวลาทำงานให้เหมือนที่ออฟฟิศ

แม้จะทำงานที่บ้านแต่ก็ควรตั้งเวลาในการทำงาน เพื่อตั้งช่วงเวลาในการใช้ไฟฟ้าให้ชัดเจนให้เหมือนอยู่ที่ทำงาน เช่น เริ่มงาน 9.00 น. เริ่มใช้ไฟฟ้า เช่น เปิดแล็ปแท็ป เสียบปลั๊กอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ต้องใช้ต่างๆ นานา เว้นเที่ยง และปิดตอน 17.00 น. โดยการกำหนดเวลาที่ชัดเจนจะทำให้ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และประหยัดไฟส่วนอื่นๆ ที่ไม่จำเป็น ก็จะช่วยประหยัดไปได้อีกทาง

ใช้หลอดไฟ LED แทนหลอดไฟชนิดอื่น

เมื่อเทียบกับหลอดไฟแบบเดิม ทั้งหลอดไส้และหลอดฟลูออเรสเซนต์แล้ว หลอดไฟ LED ให้ความสว่างมากกว่า แต่ใช้พลังงานน้อยกว่า และมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า ดังนั้นหน่วยงานต่าง ๆ จึงออกมาแนะนำให้ทุกคนเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED กันมากขึ้น โดยมีข้อมูลระบุว่า หลอดไฟ LED ช่วยประหยัดไฟฟ้าได้สูงสุดถึง 80% แถมยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากอีกด้วย

 ขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก https://www.themayohome.com/